ล้างแค้น หรือ ย้ำแค้น ค็อบบี้ เมนู กับการเผชิญหน้า โรดรี้ บทพิสูจน์ความแค้น

ศึกยูโร 2024 (Euro 2024) กำลังเป็นที่จับตามองของแฟนบอลทั่วโลก

 

หนึ่งในไฮไลท์ที่น่าสนใจที่สุดคือการแข่งขันระหว่าง ค็อบบี้ เมนู (Kobbie Mainoo) กองกลางดาวรุ่งของทีมชาติอังกฤษ และ โรดรี้ (Rodri) มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ที่จะได้เผชิญหน้ากันอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ การเผชิญหน้าครั้งนี้น่าติดตามอย่างยิ่ง เนื่องจากเมนูมีโอกาสหยุดสถิติการไม่แพ้ใครติดต่อกันของโรดรี้ได้อีกครั้ง

ค็อบบี้ เมนู ได้รับความสนใจจากแฟนบอลหลังเขามีส่วนช่วยหยุดสถิติการไม่แพ้ใครติดต่อกันของโรดรี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง โรดรี้ถือเป็นนักเตะแกนหลักของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) ที่มีฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งและสมอในการพาทีมคว้าชัยหลายรายการ โดยโรดรี้เคยสร้างสถิติไม่แพ้ใครในนามต้นสังกัดถึง 74 นัดติดต่อกันในทุกรายการ อย่างไรก็ตาม สถิตินี้ต้องยุติลงในเกม เอฟเอ คัพ (FA Cup) รอบชิงชนะเลิศล่าสุดที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) 1-2

 

ในเกมดังกล่าว ค็อบบี้ เมนู แสดงฝีมือการเล่นได้โดดเด่น

 

เขาทำประตูสำคัญและได้รับการยกย่องให้เป็น เพลเยอร์ ออฟ เดอะ แมตช์ (Player of the Match) เมนูจึงมีส่วนช่วยให้การไม่แพ้ใครของโรดรี้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องสิ้นสุดลงหลังจากผ่านมาถึง 475 วัน ปัจจุบัน โรดรี้ ยังคงรักษาสถิติการไม่แพ้ใครในการเล่นให้กับทีมชาติสเปนต่อไป โดยไม่แพ้ติดต่อกันมาถึง 470 วันแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เขาแพ้กับการเล่นให้สเปนเกิดขึ้นในเกม ยูโร 2024 รอบคัดเลือก ที่พ่ายให้กับ สกอตแลนด์ (Scotland) 0-2 เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา

การพบกันระหว่างเมนูและโรดรี้ในรอบชิงชนะเลิศของยูโร 2024 นี้ จึงเป็นเรื่องที่แฟนบอลทั่วโลกต่างรอคอยอย่างตื่นเต้น สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามข่าวสารและการอัพเดท (updates) ล่าสุดเกี่ยวกับการแข่งขันนี้ สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ sbobet อัพเดท ที่มีการรายงานข่าวสารและส่วนถาม-ตอบที่ครอบคลุมและทันสมัย

 

เว็บไซต์ sbobet อัพเดท ไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับนักเตะและทีม

 

แต่ยังมีการวิเคราะห์การแข่งขันที่ลึกซึ้งและเชิงวิจารณ์ ข้อมูลประวัติการแข่งขันและสถิติที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวิเคราะห์เกมที่จะเกิดขึ้น สามารถทำให้ผู้ติดตามเข้าใจสภาพการเล่นและกลยุทธ์ของทีมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ sbobet อัพเดท ยังมีข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาของนักเตะดาวรุ่งอย่างเมนู รวมถึงการวิเคราะห์ความสามารถและอนาคตในวงการฟุตบอลของเขา แฟนบอลสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการเตรียมตัวของเมนูและแนวโน้มที่จะสร้างประวัติศาสตร์ในรอบชิงชนะเลิศได้ที่นี่

 

การชิงชัยในยูโร 2024 นี้

 

ไม่เพียงแต่จะเป็นการปะทะกันระหว่างสองนักเตะที่มีฝีมือยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นเวลาที่ทั้งสองจะได้พิสูจน์ความสามารถและความมั่นใจของตัวเองอย่างเต็มที่ การแข่งขันนัดนี้จะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่แฟนบอลทั่วโลกไม่ควรพลาด ในมุมมองของแฟนๆและผู้ติดตาม ทั้งค็อบบี้ เมนู และโรดรี้ ต่างก็เป็นนักเตะที่เร้าใจและน่าจับตามอง ผู้ชมสามารถคาดหวังได้ว่าทั้งสองจะนำเสนอสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจในสนามแข่งได้อย่างแน่นอน

หากต้องการติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับคู่นักเตะนี้ ควรเข้าไปดูที่ sbobet อัพเดท ที่จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนและทันสถานการณ์ในทุกช่วงเวลาของการแข่งขัน

สเปน ชนะ จอร์เจีย กระจุย แสบจริง แต่กระทิงดุแกร่งเกินต้าน ศึกยูโร 2024

ทีมชาติสเปน (Spain national team) ยังคงแสดงความแข็งแกร่งสมกับการเป็นทีมเต็งแชมป์ยูโร 2024 (Euro 2024) 

ในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลยุโรป (European football tournament) หลังจากพวกเขาโชว์ฟอร์มสุดยอดในการพลิกสถานการณ์จากการตามหลังหนึ่งประตูกลับมาชนะทีมชาติจอร์เจีย (Georgia) 4-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย (Round of 16) เมื่อวันอาทิตย์ (Sunday) ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ทีม “กระทิงดุ” เล่นตามสไตล์เกมรุก (attacking style) ตลอดทั้งเกม ในขณะที่จอร์เจียมาตามแผนการเล่นสวนกลับโดยพวกเขาได้ผลจากการเปิดบอลกดดันแนวรับสเปนจนทำเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 18 อย่างไรก็ตาม ความนิ่งและเฉียบคมของทีมชาติสเปนภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ทำให้พวกเขาสามารถทวงคืนแบบทบต้นทบดอก และบทพิสูจน์นี้เป็นการยืนยันให้โลกได้เห็นว่าทำไมสเปนถึงเป็นทีมที่อันตรายที่สุด

  1. ควารัตสเคเลียป่วนสเปนหัวหมุน

หนึ่งในผู้เล่น  ที่ทำให้สเปนต้องเจอกับความลำบากคือ ควิชา ควารัตสเคเลีย ซึ่งจอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ นายทวารทีมชาติจอร์เจีย ยกย่องว่าเป็นนักเตะที่มีฝีเท้าเก่งกว่าผู้เล่นทีมชาติสเปนทุกคน แม้ว่านี่อาจดูเหมือนการอวยเพื่อนร่วมทีม แต่ผลงานของควารัตสเคเลียนั้นก็แทบไม่เกินจริง ก่อนเริ่มเกม ทุกคนยอมรับว่าสเปนมีความเหนือกว่าจอร์เจียทุกด้าน แต่ควารัตสเคเลียก็แสดงให้เห็นว่าเขาคือคีย์แมนของทีม ทุกครั้งที่สตาร์จากนาโปลีได้บอลหรือมีพื้นที่ ให้ใช้ความเร็ว เขาทำให้แนวรับของสเปนต้องเจอกับความลำบาก และประตูที่จอร์เจียได้ขึ้นนำ 1-0 ก็มาจากการที่ควารัตสเคเลียกดดันโรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์จนทำเข้าประตูตัวเอง

หลังจากประตูนั้น จอร์เจียใช้แผนสวนกลับเร็วเล่นงานสเปน โดยมีควารัตสเคเลียเป็นแกนหลัก แม้ว่าครึ่งหลังควารัตสเคเลียจะมีโอกาสสำคัญอีกครั้ง แต่สเปนก็สามารถกลับมาตั้งเกมและบดขยี้จอร์เจียอย่างต่อเนื่อง เมื่อพวกเขาได้ประตูขึ้นนำ เกมก็เปลี่ยนไปอยู่ในมือของสเปนทันที ขณะที่จอร์เจียไม่สามารถใช้แผนสวนกลับได้เช่นเดิม

  1. อย่ากระตุกเขากระทิงดุ

กุนซือ  วิลลี่ ซาญอล วางแท็กติกอย่างอดทนรู้ว่าจอร์เจียเป็นรองทุกด้าน และวิธีเดียวที่จะเล่นงานสเปนได้คือการสวนกลับเร็ว แผนของซาญอลบรรลุผลเมื่อพวกเขาทำประตูได้จากจังหวะสวนกลับโดยโอตาร์ คาคาบัดเช่เปิดบอลเข้าไปกลางประตูและเลอ นอร์กม็องด์ทำเข้าประตูตัวเอง แต่น่าเสียดายที่จอร์เจียขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์ และในเมื่อไม่สามารถฆ่าทีม “กระทิง” ให้ตายได้ ก็ต้องเจอกับการถูกตอบโต้ หลังจากสเปนกลับมาเล่นอย่างมีสมาธิและบุกต่อเนื่อง จอร์เจียจึงต้องพบกับความพ่ายแพ้

  1. ซูมสองดาวรุ่ง ยามาล-วิลเลี่ยมส์

ในแมตช์นี้ผลงานของขุนพลสเปนถือว่าสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และ ลามีน ยามาล ที่สร้างปัญหาให้กับจอร์เจีย วิลเลี่ยมส์ขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายได้อย่างดุดันและประสานงานกับ มาร์ก กูกูเรย่า ได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ยามาลระเบิดฟอร์มในครึ่งหลังและเปิดบอลให้ ฟาเบียน รุยซ์ โขกขึ้นนำ

  1. รับก็แน่น รุกก็โหด

สติถิในรอบแบ่งกลุ่ม (Group Stage) ที่ไม่เสียประตูเลย และการสร้างโอกาสยิงประตู 36 ครั้ง เข้ากรอบ 13 ครั้งในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นเครื่องการันตีความเยี่ยมยอดของทีมสเปน กุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ สร้างสมดุลให้กับทีมได้อย่างดี เขามีผู้เล่นแนวรับที่เติมเกมรุกได้อย่างดุดัน เช่น ดานี่ การ์บาฆาล กับ กูกูเรย่า ที่ช่วยดันเกมและทำหน้าที่ป้องกันอย่างแข็งแกร่ง

สำหรับแฟนบอลที่สนใจเดิมพันในการแข่งขัน  ฟุตบอลยูโร 2024 การเลือกที่จะ ** แทงบอล sbobet ยังไง ** ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีความน่าเชื่อถือ และการ แทงบอล sbobet ยังไง ก็ยังมีโปรโมชั่น และข้อเสนอต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งนี้ต้องไม่ลืมที่จะทำการวางแผนการเดิมพันให้ดีเพื่อเพิ่มโอกาสชนะและเพลิดเพลินไปกับเกมสุดมันส์ของฟุตบอลยูโร 2024

 

อะไรทำให้ คล็อปป์ น่าจะยังไม่ทิ้งทีมไปตอนนี้

อะไรทำให้ คล็อปป์ น่าจะยังไม่ทิ้งทีมไปตอนนี้

ถือว่าเป็นข่าวที่มันลงล็อคเกินไปสำหรับ ข่าวการออกมาเตรียมลาทีมชาติเยอรมันของ โยอาคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมันที่คุมทีมมาอย่างยาวนาน เค้าบอกว่ากำลังจะลาทีมหลังเสร็จศึกยูโรกลางปีนี้ จนทำให้ตอนนี้ชื่อของ คล็อปป์ กุนซือของลิเวอร์พูลกำลังถูกเล่นข่าวว่าจะเข้ามาแทนที่ อย่างไรก็ตามเรากลับมองต่างว่า คล็อปป์ น่าจะยังไม่ทิ้งทีมไปตอนนี้แน่นอน หรือ อย่างน้อยก็อยู่กับทีมไปอีกหนึ่งซีซั่นก่อน

ขอแก้มือ อีกรอบ

ซีซั่นที่แล้ว คล็อปป์ พาทีมลิเวอร์พูลขึ้นไปเถลิงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีคเป็นสมัยแรกอย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียว นั่นทำให้ความฝันของเหล่าเดอะค็อปเป็นจริงเสียที แต่ว่าซีซั่นนี้ผลงานกลับร่วงกราวรูดส่วนหนึ่งก็มาจากอาการบาดเจ็บที่ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่เลยทีเดียว ผลงานที่เรามองว่าน่าจะย่ำแย่มากในซีซั่นนี้ แม้จะมองว่าน่าผิดหวัง ล้มเหลว แต่มันก็น่าจะเป็นแรงขับชั้นดีที่ทำให้ เจอร์เก็น คล็อปป์ ขอกลับมาแก้มือให้กับตัวเองอีกครั้งในซีซั่นหน้า หากแก้มือสำเร็จด้วยการกระชากแชมป์ลีคคืนมาจากเป๊ปได้รวมถึงเอาคืนที่แพ้ไปในซีซั่นนี้กับอีกหลายทีม ตอนนั้นจะลาทีมก็ไม่มีใครว่า

การถูกจดจำในฐานะผู้แพ้

การลาจากนั้นมีอยู่สองอย่าง หนึ่งจากไปให้คนจดจำในฐานะผู้ชนะ สองจากไปให้คนจดจำในฐานะผู้แพ้ เราเชื่อว่าคล็อปป์คงไม่อยากเป็นแบบที่สองแน่นอน หากใครจำกันได้ ดอร์ทมุนด์ ยุคคล็อปป์ เป็นคนสุดท้ายที่กระชากแชมป์มาจากบาเยิร์น มิวนิคได้ในเวทีบุนเดสลีก้า แถมเป็นสองสมัยติดกันด้วย น่าเสียดายที่คนกลับจำภาพที่คล็อปป์ทำทีมฟอร์มตกจนทำให้ทีมต้องขอแยกทางกับเค้าไปแบบสุดช้ำใจ ดังนั้นหากคล็อปป์ไม่อยากจะให้ประวัติศาสตร์ของตัวเองต้องซ้ำรอยกลายเป็นกุนซือที่ถูกจดจำว่าทำทีมแพ้ติดต่อกันในบ้าน 6 เกมหรือมากกว่า ต้องไม่ทิ้งทีมไปพร้อมกับกระตุ้นทีมเพื่อกระชากทีมกลับมาให้ได้อีกครั้ง

เก็บตกประเด็นสำคัญ เกมเวสต์แฮม กับ แมนยู

เก็บตกประเด็นสำคัญ เกมเวสต์แฮม กับ แมนยู

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เกมดราม่าอีกแล้ว แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลุ้นกันเหนื่อยเลยในครึ่งหลัง การเจอกับ เดวิด มอยส์ และนักเตะของพวกเค้าในทีมเวสต์แฮม ไม่ง่ายเลยจริงๆ อย่างไรก็ตามสุดท้ายการเอาชนะเกมนี้มาได้ถือว่าเป็นเรื่องทีดี่ของฝั่งแมนยูเอง อย่างไรก็ตามเกมนี้มีประเด็นอะไรให้เห็นกันบ้าง

แมนยูวันที่ไม่มีบรูโน่

เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า ฟุตบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนี้ขึ้นอยู่กับชายที่ชื่อว่า บรูโน่ แฟร์นันเดส เท่านั้น เค้าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีมได้เลย คำถามก็คือในวันที่เค้าไม่อยู่ เกมของแมนยูจะเป็นอย่างไร คำตอบก็เห็นแล้วในครึ่งแรก พวกเค้าเล่นเกมบุกกันไม่ขึ้นเลย แม้จะมีป็อกบาลงมายืนคู่ก็ตาม ทำได้เพียงแค่โยนยาวข้ามแดนกลางไป ซึ่งมันก็เจอกองหลังเวสต์แฮมเก็บกินหมด ยิ่งเจอเพรสซิ่งหนักแบบติดตัว เกะกะทำให้เล่นอะไรไม่ถนัดยิ่งทำให้ทุกอย่างจบเลย ฟาน เดอ เบค ทำให้เราเห็นว่า ยังชั้นไม่ถึงการเล่นแทนบรูโน่ในตำแหน่งนี้ จนต้องเปลี่ยนออกไปช่วงต้นครึ่งหลังในที่สุด

เวสต์แฮม เล่นโคตรดี

ข่าวร้ายเพียงอย่างเดียวของ เวสต์แฮม ในเกมนี้ก็คือ พวกเค้าขาดกองหน้าตัวหลักอย่าง อันโตนิโอ ไม่งั้นเกมนี้บอกเลยว่า พวกเค้าชนะแน่นอน แต่ว่าที่เหลือของพวกเค้าก็ต้องยอมรับว่า เล่นโคตรดีเลย ไม่ว่าจะเป็น จารอท โบเว่น ที่พอบอลติดเท้าแล้วไปกับบอลดีมาก แย่งก็ยากด้วย หรือจะเป็น ดีแคลน ไรซ์ คนนี้บอกเลยว่าใครอยากได้มิดฟิลด์ตัวรับที่สด แข็งแกร่ง กล้าเล่น กล้าเลี้ยงก็ต้องคนนี้เท่านั้น

VAR กับลูกออก

เกมนี้มีประเด็นหนึ่งน่าสนใจ จากประตูตีเสมอของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันเกิดขึ้นจากจังหวะที่ดีน เฮนเดอร์สัน เตะบอลเปิดออกมาซึ่งมันคาบลูกคาบดอกว่าออกนอกสนามบริเวณเส้นข้างไปแล้วหรือยัง ที่เด็ดคือ VAR ก็พิสูจน์ไม่ได้ด้วยตรงนี้เลยสรุปว่าให้ประโยชน์กับแมนยูไป อาจจะต้องกลับไปคิดกันว่าจะต้องนำเทคโนโลยีอะไรมาใช้เพื่อพิสูจน์ตรงนี้ให้ชัดเจนต่อไป

เซาท์เกตรออะไร ถึงยังไม่ประกาศตอนนี้

เซาท์เกตรออะไร ถึงยังไม่ประกาศตอนนี้

ตอนนี้ แต่ละทีมชาติที่เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลยูโร ต่างก็ทยอยเปิดตัวผู้เล่นที่ติดโผออกมาให้เราได้รับทราบกันแล้ว สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้างก็คละเคล้ากันไป แต่ว่าทีมชาติที่หลายคนรออยู่อย่าง ทีมชาติอังกฤษของแกเร็ธ เซาท์เกต ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยรายชื่อออกมา เค้ารออะไรถึงยังไม่ประกาศตอนนี้

พรีเมียร์ลีคจบ

เราเชื่อว่าขั้นตอนแรก เซาท์เกต น่าจะรอเรียกตัว ประกาศรายชื่อหลังจากพรีเมียร์ลีคจบแล้วอาทิตย์นี้ เพราะว่าเค้าอาจจะไม่อยากให้การประกาศรายชื่อทำให้นักเตะเสียสมาธิ จนส่งผลให้ทีมเสียสมาธิได้ คิดดูว่าหากนักเตะรู้ตัวว่าติดทีมชาติ นัดสุดท้ายอาจจะเล่นไม่เต็มสูบกลัวเจ็บ จนทำให้หลุดออกจากทีมชาติได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย เราเชื่อว่า เซาท์เกตน่าจะรอหลังจบพรีเมียร์ลีค และลีครองลงไปด้วย

บอลยุโรปเตะจบ

หรือหากบอลพรีเมียร์ลีคเตะจบลงไปแล้ว ยังไม่สามารถเรียกตัวได้ อีกเคสหนึ่งน่าจะเป็นการเรียกหลังจาก ฟุตบอลยุโรป เสร็จสิ้นลงไปก่อน อย่าลืมว่า ทีมจากอังกฤษเข้าชิงถ้วยยุโรปมากถึงสามทีมเลย ทั้งเชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในบอลถ้วยใหญ่ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บอลยูโรป้าลีค ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสมาธินักเตะทุกคน เค้าก็เลยอาจจะเลื่อนเวลาประกาศไปก่อนก็เป็นได้

 ยังเลือกไม่ได้

เหตุผลสุดท้าย ยังไม่ได้ประกาศรายชื่อออกมา ยอมรับเลยว่า เซาท์เกต อาจจะยังไม่ได้เลือกใครทั้งหมด แน่นอนว่ารายชื่อแกนหลังน่าจะมากันเกือบครบแล้ว แต่อีกหลายคนที่ฟอร์มดีขึ้นมา ก็ยากจะตัดสินใจหั่นทิ้งเหมือนกัน อย่างตำแหน่ง แบ็คขวาที่ชั่วโมงนี้มีให้เลือกเยอะมาก เลยทำให้เค้าอาจจะต้องขอดูฟอร์มจนถึงนัดสุดท้ายแล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง อย่างเคสตำแหน่งกองกลาง ที่มีรายคนเข้าตามาก กองหน้า แม้จะมีเคน ยืนหลัก แต่คนอื่นก็น่าสนใจเหมือนกัน รวมถึงคนที่ฟอร์มดีมากในช่วงก่อนหน้านี้ แต่พักหลังเงียบไป เซาท์เกต ก็ต้องใช้โอกาสทั้งหมดเพื่อตัดสินใจอีกครั้ง เราเชื่อว่าการตัดสินใจของเค้าไม่ว่าจะเอาใครไปด้วยในยูโรกลางปีนี้ ยังไงก็มีดราม่าแน่นอน

พรีเมียร์ลีค สัปดาห์ของ late game

พรีเมียร์ลีค สัปดาห์ของ late game

การยิงประตูท้ายเกม ถือว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของพรีเมียร์ลีคเลย ท้ายเกมถือว่าเป็นช่วงเวลาวัดใจ ทั้งความเหนื่อยล้าร่างกายและจิตใจ ทำให้นักเตะอาจจะเกิดข้อผิดพลาด จนนำมาสู่ประตูที่ตัดสินผลการแข่งขันได้เลย เกมพรีเมียร์ลีควีคนี้มีคู่ไหนยิงประตูท้ายเกมกันแบบสุดดราม่ากันบ้าง

เลสเตอร์ กับ แอสตัน วิลล่า

คู่นี้แฟนบอลคงไม่เชื่อว่าเป็นการเจอกันของอันดับ 3 และ อันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ลีค ก่อนการแข่งขัน มองไปที่ฟอร์มของนักเตะ และทีมก็ถือว่าสูสีเล่นดีด้วยกันมาทั้งคู่ เกมนี้สองฝ่ายเปิดหน้าแลกหมัดกันเพื่อจะทำประตูให้ได้ สุดท้ายก็ทำได้แค่หวาดเสียววืดวาดไปมา แต่สุดท้ายเรื่องราวดราม่ามาเกิดขึ้นเมื่อ รอส บาร์คลีย์ ของแอสตัน วิลล่า มายิงไกลอย่างสุดสวยเสียบมุมประตูเข้าไปอย่างสวยงาม พาทีมเก็บสามแต้มไปรั้งรองจ่าฝูงแบบหล่อๆ

เชลซี กับ เซาท์แธมป์ตัน

ขึ้นไปที่ลอนดอน กับ เชลซี ที่กลับมาเล่นอีกครั้งเปิดบ้านรับการมาเยือนของเซาท์แธมป์ตัน เกมนี้ก่อนเกม หลายคนมองว่า เชลซี เหนือกว่าเยอะ ไม่น่าจะงานยากเท่าไร แถมจบครึ่งแรกนำด้วยสกอร์ 2-1 น่าจะจบพอมาครึ่งหลังเป็นทาง เซาท์ ยิงตีเสมอแล้ว เชลซี ยิงนำเป็น 3-2 น่าจะจบสกอร์นี้ แต่ว่าการบุกสุดท้ายของเซาท์บอลเปลี่ยนทางจากการสะกิดของ เวสต์เทอร์การ์ด ทำให้เกป้า หมดสิทธิ์รับ บอลเข้าประตูไปกลายเป็น 3-3 สุดดราม่า

สเปอร์ส กับ เวสต์แฮม

การเจอกันของ น้ามู และ น้ามอยส์ หลายคนคิดว่า น้ามูน่าจะไม่ยาก แถมนำ 3-0 ตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก เกมดำเนินต่อไปจนกระทั่งนาทีที่ 82 เวสต์แฮม มาได้ประตูตีไข่แตกที่คนดูทุกคนมองว่ามันเป็นรางวัลปลอบใจเท่านั้นเอง แต่ที่ไหนได้ เวสต์แฮมมาได้ประตูจากการทำเข้าประตูตัวเองของ ซานเชส นักเตะสเปอร์ส ก่อนจะมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 90+4 จาก ลานซินี่ ที่ต้องบอกว่าลูกนี้สวยจัด ทำให้เสมอไปแบบสุดมันส์ 3-3

อีกสองคู่ที่มาท้ายเกมเหมือนกัน คริสตัล พาเลซ มาเสียประตูให้ไบร์ทตัน ในนาทีที่ 90 ทำให้เสมอกันไป 1-1 อีกคู่ ฟูแล่ม ที่จะชนะเป็นนัดแรกอยู่แล้ว มาเสียจุดโทษให้กับ เชฟฟิลด์ นาทีที่ 85 เสมอไป 1-1 ทำให้ยังต้องควานหาชัยชนะนัดแรกต่อไป

วิเคราะห์ เมสซี่ ต่อสัญญา

วิเคราะห์ เมสซี่ ต่อสัญญา

ถือว่าเป็นข่าวดีต่อเนื่องสำหรับแฟนบอลเมสซี่ หลังจากที่เค้าปลดล็อคตัวเองในสีเสื้อทีมชาติด้วยการคว้าแชมป์โคปปาอเมริกาได้สักที ไม่เท่านั้นยังมีข่าวออกมาต่อเนื่องว่า บาร์เซโลนา ต้นสังกัดสามารถเข้าเจรจาได้หลังจากลีคไฟเขียวให้ทำได้จากการตรวจสอบเรื่องเพดานค่าเหนื่อย ดูทรงแล้วสัญญาที่ยื่นให้เมสซี่น่าจะต่อแน่นอน เรามาวิเคราะห์เรื่องราวการต่อสัญญาคราวนี้กัน

รายละเอียดที่คาด

ทีนี้เรามาดูรายละเอียดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในสัญญานักเตะตามข่าว บอกว่า สัญญาฉบับนี้ของเค้าจะลดค่าเหนื่อยลงมาเยอะมากถึง 80% เลยหากเทียบกับสัญญาของเดิม ข่าวออกมาบอกว่าค่าเหนื่อยจะเหลือเพียงแค่ 2 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้นเอง(นี่ลดแล้วนะ) แต่สัญญาจะเป็นระยะยาวถึง 3-5 ปีกันเลยทีเดียว

รักจริง

หากสัญญาออกมาเป็นแบบนี้ แล้วเมสซี่ เซ็นสัญญา ก็เท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า เมสซี่ เป็นคนที่รักจริงต่อสโมสรแห่งนี้ เพราะการเซ็นรับค่าเหนื่อยจากสัญญาที่น่าจะเป็นฉบับสุดท้ายในอาชีพนักเตะ น่าจะเป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่า เงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของเค้าที่มีต่อสโมสรแห่งนี้

จ่ายน้อยแต่จ่ายนาน

ในทางกลับกัน สัญญาระยะยาวแบบนี้ของ บาร์ซาเอง ก็เป็นเรือ่งของการเล่นแร่แปรธาตุค่าเหนื่อยด้วยเหมือนกัน เพราะต้องจ่ายค่าเหนื่อยที่น้อยลงมากกว่าที่คาดเอาไว้ เลยต้องแบ่งมาจ่ายเป็นระยะเวลานานขึ้นมาแทน หากไม่ทำแบบนี้พวกเค้าจะติดค่าใช้จ่ายเพดานค่าเหนื่อย จนทำให้สโมสรติดตัวแดงแล้วมีผลต่อกฎการเงินได้เหมือนกัน

ตั้งเพดานค่าเหนื่อย

เราเชื่อว่า เคสของเมสซี่ น่าจะเป็นการตั้งเพดานค่าเหนื่อยสูงสุดของทีมไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง เพราะคงไม่มีใครจะมีค่าเหนื่อยมากกว่านี้อีกแล้วในโลกฟุตบอลปัจจุบัน หรือนับต่อจากนี้ไปอีก 3-5 ปีก็ตาม ถือว่าเป็นการกำหนดเพดานค่าเหนื่อยเอาไว้ด้วย ก็ต้องมาดูกันว่า เมสซี่ จะต่อสัญญาฉบับนี้ที่น่าจะเป็นฉบับสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอลต่อไปอีกหรือไม่

สิ่งที่ได้เห็นจาก ลินการ์ด ลงสนาม

สิ่งที่ได้เห็นจาก ลินการ์ด ลงสนาม

ดีลตลาดหน้าหนาวรอบนี้เชื่อว่าดีลที่มาเหนือความคาดหมายที่สุดของพรีเมียร์ลีค น่าจะเป็นการย้ายออกของ เจสซี่ ลินการ์ด ที่เรารู้อยู่ว่ายังไงก็ต้องเกิด แต่ว่าไม่คิดว่าจะมาลงเอยที่เวสต์แฮม กับผู้จัดการทีมเดวิด มอยส์ แต่ว่าในเกมที่เราเห็นเค้าลงสนามครั้งแรกเจอกับ แอสตัน วิลล่า แล้วกดไป 2 ประตูพาทีมชนะได้แบบสุดมัน เรามองเห็นอะไรในเกมนี้บ้าง

ความกระหายในการเล่นฟุตบอล

การไม่ได้ลงสนามถือว่าเป็นฝันร้ายของนักฟุตบอลเลย หากมีอาการบาดเจ็บอยู่ก็พอเข้าใจได้ แต่หากไม่ได้เจ็บ แล้วไม่ได้ลง พอนานวันเค้ามันก็บั่นทอนจิตใจในความรักฟุตบอลได้เหมือนกัน พอลินการ์ดได้ลงสนามเกมนี้เราเห็นเค้าแสดงความกระหายในการเล่นฟุตบอลออกมาอย่างมาก การเล่นวิ่งไล่บอลเข้าทุกจังหวะ การจับเลี้ยง ส่ง จ่าย ยิง เป็นอะไรที่เหมือนอัดอั้นมานานมาก เล่นแบบพล่านมาก จนสุดท้ายสร้างผลงานสุดเซอร์ไพร์ส

กล้าเล่น แบบไม่กลัวพลาด

ตอนอยู่แมนยู เค้าเล่นฟุตบอลแม้ว่าจะไม่ใช่ดาวรุ่งแล้วก็ตาม แต่กลับเล่นแบบกล้าๆกลัวๆ ยังไงก็ไม่รู้ จนทำให้เค้าขาดความมั่นใจในการเล่นฟุตบอลไป แต่ว่าเมื่อคืนนี้ไม่ใช่คนเดิมที่เรารู้จักเลย เพราะว่าเค้ากล้าเล่น กล้าเลี้ยง กล้าลุย แบบไม่กลัวความผิดพลาดเลย ผลก็คือทำให้อีกฝ่ายไม่กล้าเข้าบอลมากนัก กลัวโดนหลอกแล้วหัวจะทิ่ม จริงอยู่ว่าการเล่นของลินการ์ดเมื่อคืนก็มีช็อตพลาดเหมือนกัน แต่เจ้าตัวเหมือนไม่สนใจ ขอเดินหน้าเล่นฟุตบอลอย่างเดียว ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี

เพื่อนกล้าส่งให้

เวลาเล่นฟุตบอล นักเตะเองก็ต้องแสดงให้เพื่อนร่วมทีมเห็นด้วยว่า ฉันทำได้ ฉันก็มีของนะ ไม่งั้นเพื่อนไม่ส่งบอลให้แน่นอน ซึ่งลินการ์ด ตอนอยู่แมนยู เพื่อนมองว่าเค้าไม่พร้อม ไม่น่าเล่นได้ แต่ว่ามาอยู่เวสต์แฮม ไม่เป็นแบบนั้นเลย เพื่อนทุกคนกล้าเล่น กล้าเลี้ยง และกล้าส่งให้ เจสซี่ เล่นบอล พอเพื่อนมั่นใจ กล้าส่ง เจสซี่ก็กล้าเล่น ต่างคนต่างมั่นใจกัน ผลก็เลยออกมาอย่างที่เห็นในสนาม

เงื่อนไขเพิ่มเติม Add on ที่ไร้ความหมาย

เงื่อนไขเพิ่มเติม Add on ที่ไร้ความหมาย

การซื้อขายนักเตะเดี๋ยวนี้ต้องบอกว่ามีการพัฒนาสัญญาไปมากทีเดียว จากเดิมที่ซื้อขายกันธรรมดา ก็จะมีการซื้อแบบแลกตัว ซื้อแบบแถมตัว หรือ ซื้อขายแบบผ่อนก็มีด้วย หนึ่งในลูกเล่นของสัญญาซื้อขายนักเตะสมัยนี้ที่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือ เงื่อนไขพิเศษ ภาษาอังกฤษเค้าใช้คำว่า Add on มองด้านหนึ่งเหมือนกับจะทำให้ต้นสังกัดได้ค่าตัวเพิ่มขึ้นจากราคาซื้อข้าย แต่อีกมุมหนึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้ดีลนั้นล่มได้เหมือนกัน

เงื่อนไขเพิ่มเติมมีอะไรบ้าง
คำว่า เงื่อนไขเพิ่มเติม Add on นั้นเหมือนกับ ภารกิจพิเศษ หรือ สิ่งที่พิเศษเพิ่มลงไป หากนักเตะทำได้ตามที่กำหนดทางต้นสังกัดใหม่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มให้กับต้นสังกัดเดิมของนักเตะนั้น เดิมทีเงื่อนไขเพิ่มเติมจะเป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้อย่างเช่น หากเป็นนักเตะฝ่ายรุก กองกลาง กองหน้า จะเพิ่มเงื่อนไขว่าถ้าสามารถทำจำนวนประตู หรือ แอสซิสต์ได้ตามกำหนดไว้ก็จะได้เงินเพิ่มด้วย อย่างเช่น ซีซั่นนี้ยิงประตูไปได้ 15 ประตูในลีค ก็รับเพิ่มอีก 1 ล้านปอนด์ หรือ ทำแอสซิสต์ไปอีก 10 ครั้ง ก็จะได้เพิ่มอีก 2 ล้านปอนด์แบบนี้เป็นต้น เงื่อนไขแบบนี้เป็นเหมือนของแถม หรือ แรงจูงใจให้กับนักเตะรวมถึงต้นสังกัดเดิมในการย้ายทีมทำให้ง่ายมากขึ้น อารมณ์ประมาณว่าถ้าของ(นักเตะ) ที่อยากขายนั้นดีจริงเรามีเงินแถมให้ประมาณนั้น

แต่ปัจจุบันการวางเงื่อนไขเพิ่มเติมนั้น เปลี่ยนไปไม่ได้กำหนดแต่เพียงแค่จำนวนประตู จำนวนแอสซิสต์ หรือ จำนวนเกมที่ลงสนามเท่านั้น ยังพ่วงไปถึงรางวัลต่างๆมากมาย อย่างเช่น การได้รับตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำปี(บัลลงดอร์) การพาทีมได้แชมป์ลีค แชมป์บอลถ้วย แชมป์ UCL ฯลฯ เงื่อนไขบางอย่างต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะทำได้(แต่ถ้าทำได้ก็จะมีเงินตามเงื่อนไขที่มากขึ้นตามไปด้วย)

ยากเกินไปทำดีลล่ม
แต่ที่บอกไปว่า เงื่อนไขเพิ่มเติมอย่างนี้หากใส่มาแต่พอสมควรก็พอจะได้ลุ้นอยู่เหมือนกัน แต่หากใส่มายากเกินไปบอกเลยว่า มันเหมือนกับเป็นการตบหน้าอีกฝ่ายด้วยเหมือนกัน อย่างล่าสุดเราได้ข่าวว่า ทีมซื้อขายของแมนยูใส่เงื่อนไขว่า จะจ่ายเงินค่าตัวให้ถ้าบรูโน่ย้ายมาแล้ว คว้าบัลลงดอร์ได้ บอกตามตรงว่าใส่เงื่อนไขไปแบบนี้ ไม่ต้องยื่นก็ได้ อายเค้า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรหวังอะไรจากเค้าบ้าง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรหวังอะไรจากเค้าบ้าง

ต้องบอกเลยว่า เป็นปีศาจที่กลับมาจากนรกของจริง สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นที่ผ่านมาคงบรรยายได้เพียงแค่คำว่า ต้นร้ายปลายดี หากใครยังจำกันได้ จบเกมแข่งขันที่ 9 แมนยูเคยตกลงไปอยู่ในอันดับที่ 14 กันมาแล้ว แต่สุดท้ายพวกเค้าทะยานกลับมาจบอันดับที่ 3 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เรามาดูกันว่าซีซั่นใหม่นี้แฟนปีศาจแดงคาดหวังอะไรได้บ้าง
จบด้วยตำแหน่งรองแชมป์
แม้ว่าการเข้ามาของ บรูโน่ แฟร์นันเดส จะยกระดับกองกลางของทีมให้สูงขึ้น บวกกับการผสานกับป็อกบาจะทำให้กองกลางน่ากลัวมาก บวกกับจุดโทษที่น่ากลัวด้วยเช่นกัน แต่ยอมรับตามตรงว่า การแทรกตัวมาจบอันดับ 3 ได้นั้น เกิดจากทีมอื่นผิดพลาดกันเองเยอะด้วยทั้งเลสเตอร์ และ เชลซี แน่นอนว่าซีซั่นนี้เราคงหวังแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว หากต้องการจะทำให้ดีขึ้นเป้าหมายเดียวที่จะต้องทำให้ได้ ต้องเป็นการจบอันดับที่สอง หรือรองแชมป์เท่านั้น ส่วนเรื่องแชมป์ลีคแฟนบอลอาจจะต้องรอไปก่อน
เกมบอลถ้วยในประเทศ
เรื่องเกมบอลถ้วยไม่รู้เป็นยังไง ต้องบอกว่าเป็นเพราะโซลชาร์คิดมาก หรือนักเตะเล่นกันไม่ดีก็ไม่ทราบได้ ซีซั่นที่ผ่านมาพวกเค้าเล่นดีมาตลอด ด้วยทีมสำรอง ผสมกับดาวรุ่ง จนพาทีมไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ พวกเค้าเลือกที่จะเปลี่ยนมาใช้ทีมตัวจริงเพื่อเน้นผลการแข่งขัน แต่ปรากฏว่ามันกลับไม่ได้ตามต้องการซะอย่างนั้น เรามองว่าซีซั่นนี้ หากโซลชาร์ อยากคุมทีมต่อไปอีก ต้องมีถ้วยติดมือบ้างแล้ว (อย่าลืมว่า ผู้จัดการทีมในระดับเดียวกันอย่าง อาร์เตต้าของอาร์เซนอลเก็บไปสองแชมป์แล้วนะแถมมาทำทีมทีหลังด้วย) หากโซลชาร์เอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน เค้าน่าจะได้เข้าชิงชนะเลิศบอลถ้วยอย่างน้อยหนึ่งรายการ นี่เป็นเป้าหมายขั้นต่ำสุดแล้วถ้าทำได้น้อยกว่านี้อาจจะตกงาน
เกมบอลยุโรป
อันนี้ตั้งความคาดหวังยากเหมือนกัน เพราะว่าพวกเค้าได้อันดับที่ 3ทำให้เค้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มของ UCL เลย มองว่าถ้าหลุดรอบแบ่งกลุ่มไป จนถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว ยอมรับตามตรงว่าคุณภาพของทีมมันยังห่างกับเค้าเยอะ