แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สาขาสอง ณ เมืองมิลาน

แมนยู

แมนยูการซื้อตัวนักเตะจากทีมเดิม เป็นเรื่องที่ปกติมากของทีมฟุตบอลสมัยนี้ หรือ บางครั้งการที่ซื้อนักเตะจากทีมเดิม จนโดนแซวว่าเอาไปตั้งทีมสาขาสองได้เลย ก็เป็นเรื่องที่ขำแรงแต่ทำได้จริง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลงานเท่านั้น ล่าสุด คอนเต้ บอสใหญ่อินเตอร์ มิลาน กำลังจะทำให้ทีมของเค้ากลายเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สาขาสองไปแล้วในตอนนี้

โรเมโร ลูคาคู

คนแรกที่เค้าดึงมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยตรงหลังเข้ารับตำแหน่ง นั่นก็คือ ลูคาคู ศูนย์หน้าร่างยักษ์ของยูไนเต็ด แน่นอนว่าการดึงเข้ามาครั้งนี้ต้องทำให้ได้เนื่องจากคอนเต้ต้องการจัดการกับปัญหากองหน้าของทีมอินเตอร์ มิลานในตอนนั้นอย่าง อิคาร์ดี้ ที่ฝีเท้าดีแต่นอกสนามก่อแต่เรื่องจนไม่อยากตามแก้เท่าไรนัก ผลปรากฏว่าแม้จะเสียค่าตัวแพงกว่าที่คิดแต่คอนเต้ก็ทำให้ ลูคาคู กลับมาเป็นคนเดิมเวอร์ชั่นตอนเล่นให้กับเอฟเวอร์ตัน อีกครั้งหนึ่ง
อเล็กซิส ซานเชซ

ดีลต่อมา เป็นเรื่องเกี่ยวกับกองหน้าอีกแล้ว คราวนี้เค้าเลือกดึงนักเตะที่เป็นส่วนเกินของทีมอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ชายที่หลายคนมองว่าดี แต่การมาของเค้ากลับเป็นอีกหนึ่งความล้มเหลวของทีมซื้อขาย ทำให้คอนเต้ไม่รอช้าดึงตัวไปเล่นด้วยกันที่ อินเตอร์ มิลาน แม้ว่าจะไม่เปรี้ยงเท่ากับ ลูคาคู แต่ตอนนี้ก็ได้ลงเล่นเรื่อยๆดีกว่ามานั่งเป็นก้นด้านสำรองที่ยูไนเต็ด
แอชลีย์ ยัง

ล่าสุดสดๆร้อนเลย กับแบ็คที่เล่นกับทีมมาอย่างยาวนานอย่าง แอชลีย์ ยังที่ตอนนี้ยูไนเต็ดไม่สามารถให้สัญญาระยะยาวได้ ทำให้เจ้าตัวไม่มีทางเลือกจะต้องออกจากทีมไป ดังนั้น ยัง ก็เลยขอเลือกไปผจญภัยที่อิตาลีกับ กัลโช่ ซีเรียอา ดีกว่า ดีลนี้น่าสนใจเหมือนกันว่า คอนเต้ จะใช้ แอชลีย์ ยังได้ยังไงบ้าง
ดาร์เมี่ยน

อีกหนึ่งดีลที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ข่าวกระแสแรงมาก ดาร์เมี่ยน อดีตนักเตะแมนยูที่ตอนนี้เล่นให้กับทีมปาร์ม่า ของอิตาลี ฟอร์มดีวันดีคืนเลย เนื่องจากได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง มีข่าวว่า คอนเต้ สนใจจะดึงตัวไปอีกแล้ว แถมมีโอกาสสูงด้วย หากเกิดขึ้นจริงนี่แฟนบอลคงร้องเลยว่า พี่มาคุมแมนยูเลยจะง่ายกว่าไหม(ฮา)

รวมสถิติของ แมนฯ ยู ที่น่าสนใจหลังบุกคว้าชนะ ยูเวนตุส ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แลดูมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมากหลังจากที่ล่าสุดพวกเขาบุกไปแซงชนะ ยูเวนตุส 2-1 ถึงสนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อันที่จริง “ปีศาจแดง” ทำท่าว่าจะไปไม่รอดในตอนแรกเพราะโดน “เบียงโคเนรี่” ขึ้นนำไปก่อนจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในนาทีที่ 65
แต่พวกเขาก็ตีเสมอได้จาก ฆวน มาต้า ในนาทีที่ 86 ก่อนจะมาได้ประตูชัยจากการทำเข้าประตูตัวเองของ อเล็กซ์ ซานโดร ในนาทีที่ 89

การขึ้นแซงชนะในครั้งนี้ จึงเหมือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นัดชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาล 1998-99 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำสองลูกในช่วง 5 นาทีสุดท้าย จนเป็นฝ่ายพลิกกลับมาได้ยิ่มร่า
ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีสถิติที่น่าสนใจอันอื่น ๆ ในเกมชิงถ้วย “บิ๊กเอียร์” ที่ยังยืนยงมาจนถึงตอนนี้ด้วย และแต่ละอันมันก็เป็นสถิติที่น่าทึ่งชนิดที่ว่ามันน่าจะเป็นเรื่องยากพอตัวที่จะมีใครทำลายได้

การไม่เสียประตูนานที่สุดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล – สถิติที่ว่านี้เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2010-11 โดยคราวนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เสียประตูให้ใครเลยเป็นเวลานานถึง 481 นาที หรือถ้าพูดกันอีกแบบก็คือ
เกือบจะตลอดทั้งรอบแบ่งกลุ่มเลยนั่นเอง พอถึงนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นตอนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบแน่นอนแล้วนั้น พวกเขาก็ส่ง เบน อามอส นายทวารมือ 3 ลงเป็นตัวจริงในนัดสุดท้าย
ที่เจอกับ บาเลนเซีย และในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็โดนเจาะตาข่ายจากผลงานของ ปาโบล เอร์นันเดซ ในนาทีที่ 32 แต่สุดท้ายเกมนั้นก็จบลงที่การเสมอกัน 1-1 ในซีซั่นนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ดีมา ก ๆ
จนไปถึงนัดชิงชนะเลิศ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องอกหัก เพราะโดน บาร์เซโลน่า ไล่ต้อนไป 1-3 ที่สนามเวมบลีย์

ไม่แพ้ใครติดต่อกันนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก – ในซีซั่น 2007-08 แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกจับให้อยู่ในกลุ่ม เอฟ พร้อมกับมีเพื่อนร่วมกลุ่มเป็น อาแอส โรม่า, สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ ดินาโม เคียฟ
ซึ่งนั่นก็ทำให้มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจมากนักที่พวกเขาจบรอบแบ่งกลุ่มแบบไร้พ่าย โดยแบ่งเป็นชนะ 5 เกม และแพ้ 1 หน ในรอบชิงชนะเลิศนั้น เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี เพราะคู่แข่งของพวกเขาคือ เชลซี ทีมร่วมลีก
และหลังจากเสมอกัน 1-1 ทั้งในเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษแล้วนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ชนะในช่วงดวลจุดโทษ จนทำให้ได้สัมผัสกับถ้วย “บิ๊กเอียร์” เป็นสมัยที่ 3

ทีมเดียวที่ไร้พ่ายใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อฤดูกาลถึง 2 ซีซั่น – เฟอร์กูสัน สามารถนำถ้วยแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาประดับตู้โชว์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 2 ครั้ง ประกอบด้วยฤดูกาล 1998-99 กับ 2007-08
ซึ่งในทั้ง 2 ซีซั่นนั้น ทีมของเขาไม่แพ้ใครแม้แต่นัดเดียว รายละเอียดการไร้พ่ายในฤดูกาล 2007-08 ก็เป็นอย่างที่กล่าวในเบื้องต้น เพียงแต่ในซีซั่นดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สิทธิ์เล่นรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ
ตรงกันข้ามกับซีซั่น 1998-99 ที่พวกเขาต้องไปเริ่มต้นตั้งแต่รอบคัดเลือก การไร้พ่ายตลอดฤดูกาลถือว่าทำได้ยากอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยากขึ้นไปอีกก็คือการไม่แพ้ใครเลยถึง 2 ซีซั่น ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็มีแค่ แมนฯ ยูไนเต็ด
เพียงทีมเดียวที่สามารถทำแบบนั้นได้ในการเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก

‘พอล สโคลส์ ’ จวกสามแข้งดัง ‘ปีศาจแดง’ ยังไม่ดีไม่พอ

พอล สโคลส์ (คนกลาง) นักเตะแข้งระดับตำนานของทีมฟุตบอลดัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกโรงจวก อเล็กซิส ซานเชซ , โลเมลู ลูกากู และ พอล ป็อกบา สามซุปสตาร์ดังของค่ายปีศาจแดงผ่านรายการทางช่อง ESPN
และดูเหมือนว่าอดีตมิดฟิลด์เท้าชั่งทองของปีศาจแดงจะไม่ค่อยพอใจกับฟอร์มการเล่นของสามนักเตะดังนี้สักเท่าไหร่ ทั้งที่มีค่าตัวแพงในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กว่า 1 ล้านปอนด์ต่อเดือน 
โดยกล่าวว่า อเล็กซิส เป็นพวกเห็นแก่ตัว ส่วน ลูกากู ยังดีไม่พอ และ ป็อกบา เป็นพวกทะนงตัว

สโคลส์ เริ่มพูดถึง อเล็กซิส ก่อน “ผมมองว่าเขาเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย เขาเป็นพวกเล่นเพื่อตัวเอง นี่ไม่ใช่ผู้เล่นที่เราต้องการ แมนฯ ยูไนเต็ด แค่ต้องการเซ็นสัญญาเขาตัดหน้า แมนฯ ซิตี้ เท่านั้น”

ต่อมา สโคลส์ ได้พูดถึงคิว ลูกากู ซึ่งมองว่า “ผมไม่แน่ใจว่าทีมจะคว้าแชมป์ด้วยจำนวนประตูที่ ลูกากู ทำได้ ผมมองว่าการเล่นนอกกรอบเขตโทษเขายังดีไม่พอ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นปีศาจแดงที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่”

ก่อนที่ สโคลส์ จะลงท้ายด้วยการพูดถึง พอล ป็อกบา ว่า  “ป็อกบา ทำบางอย่างได้ยอดเยี่ยมในเกม ทั้งการผ่านบอล สัมผัสบอล หรือเลี้ยงบอล แต่หลังจากนั้น 5 นาทีเขากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ผิดพลาด
เพราะสมองของเขาล้วน ๆ เพียงเพราะพยายามโชว์ให้ทุกคนเห็นว่าเขานั้นเจ๋งแค่ไหน”

“เราจะไม่เห็นเขาเหมือนตอนที่อยู่ ยูเวนตุส เขาดูเหมือนปลาตัวเล็ก ๆ ใน ศึกพรีเมียร์ ลีก แน่นอนว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในทีมที่ดี แต่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีใครคอยควบคุมเขาเหมือนที่เล่นให้กับ ยูเวนตุส เท่านั้นเอง”

คุ้มไหมกับการซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อไปดูแข่งบอลถึงต่างประเทศ

หลายหลายคนคงฝันว่าสักวันนึงจะซื้อตั๋วเครื่องบินบินไปชมฟุตบอลรอบชิงถึงต่างประเทศเพื่อให้ได้อรรถรสได้เชียร์ทีมที่ท่านชอบ แต่ค่าตัวเครื่องบินมันไม่ได้ถูกการเดินทางไปเชียร์บอลที่ต่างประเทศอาจจะทำให้ท่านเสียเงินเป็นแสนๆ แล้วมันคุ้มไหมวันนี้เราจะมาลองคิดกันดูว่าคุ้มไหมกับการไปเชียร์บอลต่างประเทศ

 

1.หากท่านมีทุนทรัพย์ที่มากพอและการเดินทางไปเชียร์บอลที่ต่างประเทศครั้งนี้มันไม่ได้ทำให้ทันเป็นหนี้เปญสินหรือต้องไปเดือดร้อนคนอื่น การเดินทางไปเชียร์บอลครั้งนี้ก็ถือว่าเหมาะสม เพราะท่านมีสิทธิ์ที่จะใช้เงินของท่านทำในสิ่งที่ท่านพอใจในเมื่อมันไม่ได้เดือดร้อนใครทันอยากทำอะไรอยากบินไปที่ไหนท่านต่อไปของท่านเถอะเชียร์บอลให้เต็มที่ถือว่ามันเป็นรางวัลของชีวิต

 

2.แต่ถ้าการเชียร์บอลครั้งนี้ ท่านต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อไปเชียร์บอลก็ถือว่ามันไม่ได้เหมาะสมพ่อท่านจะสนุกแค่ชั่วคราวแต่หลังจากที่ท่านจะมาแล้วท่านจะต้องมาทำมานใช้หนี้เงินมันไม่ใช่น้อยท่านไม่เสียดายหรือ เก็บเงินไว้ก่อนรอตอนที่ท่านมีงานเหลือเหลือท่านอยากทำอะไรอยากไปไหนก็จะไม่มีใครว่าท่าน

 

หากดูจาก เงินของท่านแล้วท่านไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศเพื่อไปเชียร์บอลได้เราก็เชียร์บอลอยู่ที่บ้านดูการถ่ายทอดสดเอาถึงจะไม่ได้อรรถรสเท่ากับการเดินทางไปต่างประเทศแต่มันก็สนุกได้เหมือนกันเชียร์บอลให้สนุกและไม่เป็นทุกข์จะดีที่สุดและหากอยากสนุกมากกว่าเดิมอย่าลืมมาแทงบอลกับเอสบีโอเบสจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการเชียร์บอลของท่านให้มากกว่าเดิมเป็น 10 เท่าเชียร์บอลดีดีมีเงินใช้ฟรีใครจะไม่เอา