การสร้างทีมของโดเมเน็คมีความซับซ้อนอยู่ในตัวเอง

โดเมเน็ค
โดเมเน็ค
โดเมเน็ค

4-4-2 ทว่าปัญหาก็เกิดขึ้นอีกเมื่อนักเตะที่เขาลงสนามบางรายไม่ได้เล่นตามตำแหน่งที่ตนถนัด อาทิ กรณีของ วิลเลี่ยม กัลลาส ที่เวนเซสเตอร์แบ็กขาประจำในทีมเซลซีทว่าด้วยความที่โดเมเน็คไม่ต้องการจะเปลี่ยนคู่เซสเตอร์แบ็คซ้ายต่อไป อส่งผมให้แผงหลังของทีมตราไก่ไม่สมดุล ก้าวหน้าขึ้น แต่ยังขาดความสำเร็จ ผลงานที่เป็นรูปธรรมจะต้องตามมาแน่

แต่มันจะตามมาทันนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2006 หรือไม่ก็ยังยากต่อการคาดเดาโดยเฉพาะหากโดเมเน็คไม่ปรับเปลี่ยนหลักการของตัวเองเสียบ้าง ไก่เก๋าๆ แก่เกินแกง? การสร้างทีมของโดเมเน็คมีความซับซ้อนอยู่ในตัวเองของมันเองเมื่อเขาเข้ามาในช่วง ที่มีการผลัดรุ่นเกือบยกทีมทั้งตากกลไกลธรรมชาติและโดยเจตนาของเจ้าตัว จนถึงปัจจุบัน มีเพียงฟาเบียง บาร์กเดช นายทวารโอลิมปิกมาร์กเชยที่สัมผัสความสำเร็จมาแล้วมากมายกับเลส์ เบลอส์ยุครุ่งเรืองเท่านั้นที่ยังคงเชื่อใจได้และได้รับมอบหมายให้เป้นมือ 1 อย่างต่อเนื่อง ทว่าในส่วนของผู้เล่นตัวเก๋าๆ รายอื่นๆ ดูเหมือนกราฟจะดิ่งลงกันหมด ทั้งปาทริด วิเอร่า ที่ต้องรับบทหนักขึ้นเมื่อคู่ขาเปลี่ยนหน้ามาเรื่อยๆยังมี วิลเลี่ยม กัลลาส ที่ไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัดขณะที่ วิลเลี่ยม ชาญเอล และ ดาวิด เทรเซเก้ต์ ก็บาดเจ็บอยู่เนืองๆส่วนบอล แลปัญหานี้ก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาคำตอบได้เสียด้วยว่าพวกเขาจะกลับมาเฉียบขาดเหมือนเคยเมื่อไหร่หลังเสร้จสิ้นกับอิสราเอลเมื่อวันที่ 30 มีนาคม เลส์ เบลอส์จะสร้างเกมการแข่งขันถึง 5 เดือน สำหรับโดเมเน็คแล้ว มันขัดหูขัดตาพิกลที่ทีมจะไม่ได้รวมพล กันนานขนาดนั้นและโดยที่เกมส์อุ่นเครื่องกับอาร์เจนตินาที่สต๊าด เดอ ฟร้องช์ ในวันที่ 17 สิงหาคม จึงมีการเสนอความคิดให้เลส์ เบลอส์มาทัวร์เอเชียเพื่อกระชับความสัมพันธ์และเคาะสนิมแข้งด้วยกันที่ประเทศจีนในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ทว่าช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ไม่เหมาะสมสำหรับนักเตะที่อยู่ในข่ายติดทีมชาติส่วนใหญ่นอกจากบางงลีก เช่น ลา ลีกาสเปนจะยังไม่เปิดฉากแล้ว

ศึกเดเอฟเบ โพคาล ถือเป็นความหวังสูงสุดของ เบรเมน เลยก็ว่าได้

เบรเมน
เบรเมน
เบรเมน

ศึกเดเอฟเบ โพคาล ถือเป็นความหวังสูงสุดของ เบรเมน เลยก็ว่าได้ เจอร์แอล. บอร์น ประธานสโมสรยอมรับตามตรงว่า ทีมของเขาต้องเจองานที่หนักหนาสาหัสอย่างแน่นอนในการที่จะดวลแข้งราชันสีน้ำเงิน หลังจากก่อนหน้านี้มีอันกระเด็นตกรอบ 16 ทีม สุดท้ายยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกอย่างหมดลายทีมแชมป์เยอรมันเมื่อเจอ โอลิมปิก ลียง แชมป์ลีก เอิงยิงพรุนเป็นว่าเล่นด้วยสกอร์รวมสองนัด 10-2 (นัดแรกลียงบุกไปชนะเบรเมน 3-0 ก่อนมาเตะกันที่สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์และขุนพลโอแอลถล่มกระจาย 7-2)

การตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยความพ่ายแพ้ยับเยิน ทำให้เบรเมน โดนวิจารณ์อย่างนักว่า ทำเรื่องขายขี้หน้าผู้คน เล่นไม่สมศักดิ์ศรี กับที่เป็นถึงแชมป์บุนเดสลีกาเมื่อซีซั่นที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ก็ถูก บาเยิร์น มิวนิค ตะปบ 1 แผลในบอลลีก

โธมัส ชาฟ เทรนเนอร์ เบรเมนเป็นกุนชือที่สร้างทีมโดยยึดระบบการเล่น 4-3-1-2 สูตรของเขาในแนวรุกจะมี เนลสัน วัลเดซ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติปารากวัยยืนคู่กับ มิโรสลาฟ โคลเซ่ โดยมี โยฮัน มิกูด์ จอมทัพชาวฝรั่งเศสสร้างสรรค์เกม ส่วนเกมรับมีตัวหลักอย่าง วาเลเรียง อิสมาเอล ทำหน้าที่เซนเตอร์ฮาล์ฟ คู่กับ แฟร้งค์ ฟาเรนฮอร์สท์ ขณะที่ เปตรี พาห์ซาเน่น และ คริสเตียน ชูลซ์เป็นฟูลแบ็กสองข้าง

โดยส่วนตัวแล้ว นับด้ว่าอิสมาเอล ประสบความสำเร็จมากในการเล่นกับเบรเมน เขาเป็นกองหลังจอมซัลโว มักทำประตูได้บ่อยจากลูกโหม่ง และยังเป็นมือสังหารลูกจุดโทษอีกด้วย โดยซัดลูกโทษได้ 2 ประตู จากจำนวน 4 ลูก ที่ทำได้ในบุนเดสลีกา นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล

บางทีการคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ และแชมเปี้ยนส์ ลีก กับปอร์โต้ อาจมีความหมายกับเดโก้มากกว่า

เดโก้
เดโก้
เดโก้

ผมว่าการโหวตแบบนี้มันไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ หลายคนมักจะลงคะแนนในสิ่งที่เขารู้ อย่างเช่นนักข่าวยุโรปตะวันออกก็มักจะเลือกเชฟเชนโก้ นั่นแหละ

ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ได้เสียอกเสียใจอะไรนักหนา เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แอบซ่อนด้วยความปวดร้าวไว้ภายใน

บางทีการคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ และแชมเปี้ยนส์ ลีก กับปอร์โต้ อาจมีความหมายกับเดโก้มากกว่าการได้แชมป์กับบาร์เซโลน่าหรือรีล มาดริดเพราะตามทฤษฎีแล้ว มันดูยากกว่าสโมสรใหญ่นั่นเอง และถ้าคุณเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในสโมสรหนึ่งล่ะก็ คุณลองคิดดูแล้วกัน

ความพยายามของเดโก้ถูกมองข้ามไป เมื่อนักข่าวยุโรปส่วนใหญ่โหวตให้เชฟเชนโก้ คว้ารางวัลลูกบอลทองคำไปครองเมื่อปลายปีที่แล้วแทนที่จะเป็นมิดฟิลด์ร่างเล็กจากปอร์โต้

มันเป็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนเหมือนกัน เดโก้ เล่าต่อ มันไม่เกี่ยวกับความไม่ยุติธรรม ในเกมฟุตบอลมันมีอะไรอีกหลายอย่าง คุณอาจจะเจอนักบอลที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วมากกว่าผลงานของเขาในสนามก็ได้ ส่วนผมไม่ได้พยายามทำตัวเป็นจุดเด่นอย่างนั้น มันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

นักบอลอย่างราอูล ที่ประสบความสำเร็จมากมาย แต่กลับไม่เคยได้รับรางวัลนี้ เช่นเดียวกับมัลดินี่และโรแบร์โต้ คาร์ลอส เขายักไหล่ แต่เมื่อผลโหวตมันออกมา ผมก็คงโต้แย้งอะไรไม่ได้อยู่ดี

อย่างน้อยเขาก็น่าจะมีรางวัลปลอบใจกับความผิดหวังที่ผ่านมา นั่นคืออนาคตอันสดใสของบาร์เซโลน่า แม้การย้ายไปอยู่ในสเปนจะทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะเชื่อว่าเขาน่าจะตามมูรินโญ่ไปอยู่เซลซีมากกว่า

ฟิลิปเป้ หลุยส์ บางทีการตัดสินใจย้ายกลับแอตมาดริด อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเขา

หากพูดถึงหนึ่งในนักเตะที่ถือว่า ทำผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมาได้อย่างโดดเด่นเหลือเกิน แต่พอมาฤดูกาลนี้ กลับทำผลงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นั้น คงต้องบอกว่า ไม่อาจจะปฏิเสธได้แน่นอนว่าหนึ่งในนักเตะที่กล่าวถึงนี้ ก็คือ แบ็คซ้ายสำรองของเชลซีอย่าง ฟิลิปเป้ หลุยส์ นั่นเอง เพราะต้องบอกว่า สำหรับฤดูกาลนี้ผลงานของ ฟิลิปเป้ หลุยส์ กับทีมใหม่ของเขาอย่างเชลซีนั้น ถือว่าเป็นผลงานที่ค่อนข้างผิดคาดไปหน่อยจริงๆ เพราะฤดูกาลนี้เจ้าตัวโชว์ผลงานออกมาได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก จนทำให้ตลอดหลายนัดที่ผ่านมาของฤดูกาลนี้นั้น ฟิลิปเป้ หลุยส์ จึงเป็นได้แค่ตัวสำรองของเชลซีนั่นเอง

โดยทั้งนี้สำหรับโดยส่วนตัวแล้วก็ต้องบอกว่า สำหรับการที่ฤดูกาลนี้ที่ผ่านมา ฟิลิปเป้ หลุยส์ นั้นไม่สามารถทำผลงานออกมาได้ดีเท่าที่ควร จนเป็นได้แค่ตัวสำรองกับเชลซีนั้น ซึ่งหากว่ากันตามผลงานแล้วก็ต้องบอกว่า ไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะแม้ฤดูกาลที่ผ่านมา เจ้าตัวอาจจะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับทีมเก่าอย่างแอตมาดริดก็ตาม แต่พอมาฤดูกาลนี้ ถ้าหากใครที่ได้ติดตามดูเชลซีแข่งอยู่บ่อยๆนั้น น่าจะเข้าใจกันแน่นอนว่าทำไมเขาถึงเป็นได้แค่ตัวสำรองเท่านั้น เพราะหากดูจากหลายๆนัดที่เขาได้รับโอกาสลงเล่นนั้น เห็นได้ชัดเลยว่า ในส่วนของเกมรับนั้น เจ้าตัวยังเป็นรองตัวหลักอย่าง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จริงๆ แม้ว่าในส่วนของเกมรุก ฟิลิปเป้ หลุยส์นั้นจะทำได้ดีกว่าก็ตาม แต่เพราะด้วยสไตล์การทำทีมของมูริญโญ่นั้น ที่เน้นรับแน่นเอาไว้ก่อน จึงไม่แปลกที่เขาไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมเชลซีได้เลยนั่นเอง

และด้วยเหตุนี้นั่นเอง ก็เลยทำให้คิดว่า บางทีอาจจะเป็นการดีกว่าสำหรับเขา หากว่าหลังจบฤดูกาลนี้ ฟิลิปเป้ หลุยส์นั้นควรเลือกกลับไปอยู่กับทีมเก่าอย่างแอตมาดริดดีกว่า เพราะคิดว่าน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเขา เพราะเชื่อว่า หากเขากลับไปอยู่แอตมาดริดอีกครั้ง ยังไงทางด้านดิเอโก้ ซิโมเน่นั้น ก็น่าจะเลือกเขาเป็นตัวหลักของทีมอีกครั้งแน่นอน เพราะด้วยฟอร์มและผลงานของแบ็คตัวใหม่ที่มาทดแทนเขาในฤดูกาลนี้นั้น ทำผลงาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เลยทำให้เชื่อว่า หากเขากลับไปเป็นตัวเลือกของซิโมเน่อีกครั้ง เขาน่าจะได้เป็นตัวเลือกแรกของทีมแน่นอน และนั่นก็หมายความว่า โอกาสที่เขาจะลงสนามมากขึ้นนั้น ก็จะมีมากกว่าการอยู่กับเชลซีแน่นอน ซึ่งมันจะเป็นผลดีต่อตัวเขานั่นเอง.

ลาชิโอกับนักเตะยอดฝีมือในอดีตอันน่าจดจำ

ลาชิโอ
ลาชิโอ
ลาชิโอ

ดาวแห่งอดีต นักเตะลาชิโอคนแรกที่ติดทีมชาติอิตาลีขณะค้าแช้งกับลาชิโอนามว่า ฟลูวิโอ แบร์นาร์ตินี่ ซึ่งช่วยให้ทีมชาติอิตาลี คว้าชัยชนะท่วมท้นเหนือฝรั่งเศส 7-0 ในการเตะเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1925 และเหมือนว่าโชคชะตาเล่นตลกฮีโร่แห่งลาชิโอคนนี้กลายเป็นสาวกโรม่าในเวลาต่อมาก่อนที่ ลิโอเนลโล่ มันเฟรโตเนีย จะทำตามอีกคนในอีกหลายปีต่อมา ระหว่างปี 1934 และ1943 ลาชิโอได้ครอบครองหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่อีกคนของประวัติศาสตร์กัลโช่เขาคือ ชิลวิโอ ปิโอล่า ซึ่งร่วมทีมชาติชุดแชมป์โลกปี 1938 อยู่ด้วยเขาเป็นเจ้าของผลงานสถิติประตูสูงสุดตลอดกาลในเซเรีย อาด้วยผลงาน 274 ประตู (บวก อีก 16 ประตู ในลีกระหว่างสงคราม) ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีผลงานที่เขาทำให้กับลาชิโออยู่ 143 ประตู ช่วงทศวรรษ 50 และ 60 สุดยอดนายทวารอีกสองคนแวะมาสร้างผลงานที่นี่ เขาคือ ลูชิดิโอ เซนติแมนโต้ และ บ๊อบ โลวาติ ก่อนที่จะมีปีกจรวด อัลดด ปุคลิเนลลี่ ซึ่งฝากสถิติลงสนามให้สโมสรมากนัดที่สุดในเซเรีย อาถึง 339 นัด และต่อมาดาวยิงสวีดิช เซลมอลซ่อน ก็ได้แจ้งเกิด

แต่ดาวเตะลาชิโอที่ป๊อบปูล่าส์ ที่สุดคือ ศูนย์หน้ามหาภัยนามจอร์โจ้ “ลอง จอร์น” ชินาญ่า ซึ่งจากการสำรวจความเห็นของแฟนบอลดย นสพ.ลา กัชเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ตในวันฉลองครบหนึ่งร้อยปีของสโมสรก็ตอกย้ำข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นอย่างดีเขาเป้นหนึ่งในทีมชุดปี 1974 ที่น่าหลงไหลและอยู่ภายใต้การคุมทีมของตอมมาโซ่ เมสเดรลลี่ นั้นยับเป็นยุคที่ทัมมี เร เช็คโคนี่ วิลสัน ฟรุสตาลูปี และตามิโก้ ชินาญ่า เป็นดาวซัลโวสูงสุดในขวบปีแห่งความรุ่งโรจน์ของลาชิโอนั้นก่อนที่ทีมจะมี บรูโน่ จอร์ดาโน่ในปี 1979 ซึ่งฝากรอยเท้าเอาไว้ 19 ประตู และเบ๊บเป้ ชินญอรี่ ก็สร้างผลงานได้ถึง 26 ประตูในปี 1993 23 ประตูในปี 1994 และ 24 ประตูในปี 1996

เควิน เดอบรอยน์ กับการเลือกอยู่กับโวลฟ์บวร์กต่อไป น่าจะเป็นการเลือกที่ดีกว่าสำหรับเขา!

เควิน เดอบรอยน์
เควิน เดอบรอยน์
เควิน เดอบรอยน์

หากพูดถึงเกี่ยวกับกระแสตลาดซื้อขายนักเตะตลอดช่วงที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่า ไม่อาจจะปฏิเสธได้จริงๆ ว่าดูเหมือน เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของทีมโวล์ฟบวร์กอย่างเจ้า เควิน เดอบรอยน์ นั้นจะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ตกเป็นข่าวกับหลายทีมเลยทีเดียว เพราะหลังจากที่ฤดูกาลนี้ เจ้าตัวโชว์ผลงานกับทีมโวลฟ์บวร์กได้อย่างโดดเด่นเหลือเกิน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกำลังหลักที่กำลังจะพาทีมโวล์ฟบวร์กนั้น คว้าตั๋วไปเล่นบอลยุโรปอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกในฤดูกาลอีกครั้ง ก็เลยทำให้ดูเหมือนจากผลงานการเล่นของเจ้าเควิน เดอบรอยน์ ในฤดูกาลนี้ กลายเป็นที่สนใจของเหล่าทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมนั่นเอง

และแน่นอนว่า สำหรับคำถามที่น่าสนใจก็คือ สำหรับตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้าหลังจบฤดูกาลนี้ที่จะเปิดทำการอีกครั้งนั้น การย้ายทีมของเจ้าเควิน เดอบรอยน์ นั้นจะเกิดขึ้นรึเปล่า เพราะดูท่าทางแล้ว จากกระแสข่าวที่ผ่านมา เชื่อว่า ตลาดซื้อขายนักเตะรอบหน้านี้ น่าจะมีทีมใหญ่หลายทีมยื่นข้อเสนอไปยังกับทางโวล์ฟบวร์กแน่นอน ซึ่งก็คงต้องรอดูกันว่า ดีลการย้ายทีมของเจ้าเควิน เดอบรอยน์ นั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ทว่าสำหรับโดยส่วนตัวแล้วคิดว่า เควิน เดอบรอยน์ นั้นควรตัดสินใจเลือกอยู่กับทีมโวล์ฟบวร์กต่อไปน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

สำหรับเหตุผลว่าทำไมถึงคิดว่า การเลือกอยู่กับโวล์ฟบวร์กต่อไปนั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับ เควิน เดอบรอยน์ นั้น ก็เพราะคิดว่า หากเขาเลือกที่จะอยู่กับทีมโวล์ฟบวร์กต่อไปในฤดูกาลหน้า อย่างน้อยๆสิ่งที่เขาจะได้รับจากทีมแน่นอนก็คือ โอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง เพราะยังไงเขาก็ได้กลายเป็นทีมหลักของทีมโวล์ฟบวร์กไปแล้ว แต่ทว่าหากเขาเลือกที่จะย้ายทีมไปอยู่กับทีมใหม่ ซึ่งแน่นอนว่า เขาอาจจะได้ไปอยู่กับสโมสรที่ใหญ่ขึ้น แต่เขาก็ต้องไม่ลืมนะว่า การแข่งขันแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมของเหล่าสโมสรใหญ่ๆทั้งหลายนั้นก็สูงตามไปด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่าโอกาสเขาอาจจะไม่ได้ลงสนามต่อเนื่องนั้น จะมีโอกาสมากกว่าเมื่อเทียบกับการอยู่โวล์ฟบวร์กต่อไป ดังนั้นก็เลยคิดว่า หากเขาตัดสินใจอยู่กับทีมโวล์ฟบวร์กต่อไปในฤดูกาลหน้า น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับเขาแน่นอน นั่นเอง.

ฟิลิปเป้ หลุยส์ ถ้าฤดูกาลหน้าไม่อยากเป็นแค่ตัวสำรองกับเชลซีอีก เขาต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสไตล์ของมูริญโญ่ให้ได้!

ฟิลิปเป้ หลุยส์
ฟิลิปเป้ หลุยส์

หากพูดถึงหนึ่งในนักเตะของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ค่อนข้างทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังไม่หน่อยคนนึงเหมือนกันนั้น ไม่อาจจะปฏิเสธได้แน่นอนว่าสำหรับเจ้า ฟิลิปเป้ หลุยส์ แบ็คซ้ายตัวใหม่ของเชลซีนั้น คือหนึ่งในนั้นด้วยแน่นอน เพราะจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ที่เจ้าตัวเลือกตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมเชลซีในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลนี้ที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวก็แทบไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงกับทีมได้เลย นั่นก็เพราะว่าเขายังไม่สามารถโชว์ฟอร์มหรือว่าผลงานที่โดดเด่นออกมาได้เท่าที่ควร เลยทำให้ส่วนใหญ่นั้น มูริญโญ่เลยเลือกใช้เจ้า อัชปิลิกวยต้ายืนเป็นแบ็คซ้ายตัวหลักมากกว่านั่นเอง

ซึ่งแน่นอนว่า ถึงตรงนี้สำหรับส่วนตัวแล้วนั้น ก็ต้องบอกว่า เห็นแล้วก็น่าเสียดายไม่น้อยเช่นกัน ที่เจ้าฟิลิปเป้ หลุยส์ นั้นไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมกับเชลซีได้เลย ทั้งๆที่ผลงานในฤดูกาลที่แล้วนั้น เจ้าตัวโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นเหลือเกินกับทีมเก่าอย่างแอตมาดริด แต่พอมาฤดูกาลนี้เจ้าตัวกลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มออกมาได้เท่าไหร่นัก ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า หลังจบฤดูกาลนี้นั้น เจ้าตัวจะตัดสินใจอนาคตของตัวอย่างไร จะอยู่กับเชลซีต่อไปหรือว่า ต้องการย้ายกลับทีมเก่าอย่างแอตมาดริด ซึ่งก็คงต้องรอดูกันอีกที แต่ถ้าเจ้าตัวยังหวังที่จะอยู่กับเชลซีต่อไปนั้น และถ้าหากฤดูกาลหน้าไม่อยากเป็นได้แค่ตัวสำรองของทีมเท่านั้น สิ่งที่ฟิลิปเป้ หลุยส์ จะต้องทำก็คือ จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การทำทีมของมูริญโญ่ให้ได้นั่นเอง

และสำหรับสิ่งที่ฟิลิปเป้ หลุยส์ จะต้องไปปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้เข้ากับสไตล์การทำทีมของมูริญโญ่ นั่นก็คือ เขาจะต้องพัฒนาในเรื่องของเกมรับให้ดีขึ้น เพราะที่ผ่านมานั้นจากเท่าที่ได้สังเกตดูฟอร์มการเล่นของเจ้า ฟิลิปเป้ หลุยส์ นั้น เห็นได้ชัดเลยว่า ในส่วนของเกมรับนั้นเจ้าตัวยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก แต่เกมรุกนั้นถือว่าทำได้ดีแล้ว เพราะว่าหลายๆครั้งชอบเติมเกมขึ้นไปสูงเกินไปจนทำให้กลับลงมาช่วยเกมรับไม่ทัน ซึ่งคิดว่าถ้าหากเขาพัฒนาและปรับในส่วนของเรื่องเกมรับได้นั้น เขาก็น่าจะมีโอกาสในการลงสนามเพิ่มขึ้นแน่นอนสำหรับในฤดูกาลหน้า นั่นก็เพราะว่า มูริญโญ่นั้นจะเลือกใช้นักเตะที่เด่นในเรื่องเกมรับเป็นหลักเป็นตัวเลือกแรกก่อนเสมอ เหมือนที่เขามักจะเลือกเจ้าอัชปิลิกวยต้าเป็นตัวเลือกแรกเสมอในฤดูกาลนี้ เพราะว่าเขาทำผลงานในเรื่องของการช่วยเกมรับได้ดีกว่า ฟิลิปเป้ หลุยส์ นั่นเอง.

หลังจากนี้ แมนซิตี้จะต้องพลาดให้น้อยที่สุด เพราะนอกจากจะหมดโอกาสลุ้นแชมป์ อาจจะโดนแย่งตั๋วยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกด้วย

แมนซิตี้
แมนซิตี้

ไม่อาจจะปฏิเสธได้จริงๆว่าสำหรับผลงานของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ในฤดูกาลนี้นั้น ดูเหมือนว่าจากผลงานโดยรวมที่ผ่านมานั้น เห็นได้ชัดจริงๆว่า ฤดูกาลนี้ทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ของกุนซือ มานูเอล เปเญกรินี่นั้น ดูจะผลงานดรอปลงไปพอสมควรเลยทีเดียวหากเทียบกับฤดูกาลที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งผลงานในลีกที่เห็นได้ชัดปีนี้พวกเขาสะดุดพลาดหลายนัดเลยทีเดียว ส่วนเรื่องลุ้นแชมป์รายการต่างๆในฤดูกาลนี้ก็ดูจะทำได้ไม่ค่อยดีอีกด้วย เพราะหากดูจากสถานการณ์ในตอนนี้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า โอกาสที่แมนซิตี้จะจบฤดูกาลนี้แบบไม่มีอะไรติดมือเลยนั้น มีโอกาสสูงเลยทีเดียวอีกด้วย เพราะว่าในตอนนี้แชมป์เดียวที่ยังเหลือโอกาสอยู่คือ พรีเมียร์ลีกนั้น ก็เริ่มโดนเชลซีทิ้งคะแนนห่างออกไปเรื่อยๆ ทำให้โอกาสที่จะลุ้นแชมป์รายการนี้ก็เริ่มลดลงไปด้วยนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังต้องบอกว่า แม้โดยรวมสำหรับเส้นทางลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษของแมนซิตี้ในฤดูกาลนี้ โอกาสจะเริ่มน้อยลงแล้วก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะหมดโอกาสไปซะทีเดียวเพราะก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน แม้ว่าจะน้อยก็ตาม แต่ถึงกระนั้นก็ต้องบอกว่า สำหรับเส้นทางการแข่งขันที่เหลือหลังจากนี้ หรือว่าโปรแกรมการแข่งขันในลีกที่เหลือหลังจากนี้นั้น แมนซิตี้ของกุนซือมานูเอล เปเญกรินี่นั้น คงจะต้องเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด และจะต้องพลาดให้น้อยมากที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นบอกได้เลยว่า นอกจากจะหมดโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้แล้ว พวกเขาอาจจะโดนแย่งตั๋วไปเตะรายการยุโรปอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกในฤดูกาลหน้าอีกด้วย

นั่นก็เพราะว่า ถ้ามองไปที่เส้นทางการลุ้นแชมป์ที่เหลือหลังจากนี้ จะเห็นได้แมนซิตี้เริ่มตามหลังคะแนนเชลซีมากขึ้น ซึ่งถ้าหากหลังจากนี้พวกเขายังสะดุดหรือว่าทำคะแนนสำคัญพลาดอีก พวกเขาก็จะโดนเชลซีทิ้งห่างเข้าไปอีก ซึ่งถึงตอนนั้นบอกได้เลยว่า โอกาสที่จะไล่ทันและคว้าแชมป์มาครองได้นั้น แทบจะเป็นไปได้ยากแน่นอน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า เชลซีของโฆเซ่ มูริญโญ่นั้น เป็นไปได้ยากพอสมควรเลยที่พวกเขาจะพลาดติดต่อกันหลายนัด ต่อมาเมื่อมาดูในส่วนของอันดับตารางต่อจากพวกเขาลงไปในตอนนี้ จะเห็นได้ว่า ทั้งอาร์เซน่อล แมนยู ลิเวอร์พูลนั้น ต่างก็ไล่ตามมาติดๆเลย ซึ่งห่างกันเพียงแค่ไม่กี่คะแนนเท่านั้น เรียกได้ว่ามีโอกาสพลิกแซงกันได้ตลอดเวลาเลย แถมทั้งสามทีมดังกล่าวก็เริ่มทำผลงานดีขึ้นต่อเนื่องติดต่อกันด้วย ดังนั้นเลยเชื่อว่าหากแมนซิตี้พลาดติดต่อกันอีกหลังจากนี้สำหรับเส้นทางการแข่งขันที่เหลือนั้น มีโอกาสที่พวกเขาจะหมดลุ้นแชมป์ไปแน่นอน แถมซ้ำอาจจะเสียพื้นที่ท็อปโฟร์ให้กับทีมอื่นๆด้วยก็เป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ บอกได้เลยว่า อนาคตของกุนซือ มานูเอล เปเญกรินี่ ลำบากแน่นอน เพราะทั้งไม่มีแชมป์ติดมือ แถมยังพลาดไปเตะบอลยุโรปในฤดูกาลหน้าด้วยนั้น ทางสโมสรแมนซิตี้คงไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอนนั่นเอง.

ออสก้า หากยังไม่เร่งพัฒนาฟอร์มให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีก อาจจะโดนวิลเลี่ยนแย่งตำแหน่งเป็นตัวหลักแทน!

วิลเลี่ยน-เชลซี
วิลเลี่ยน-เชลซี

หากพูดถึงทีมสิงห์ไฮโซเชลซีของกุนซือโฆเซ่ มูริญโญ่ในฤดูกาลนี้นั้น นอกจากเรื่องผลงานในลีกที่ถือว่าพวกเขาค่อนข้างทำได้อย่างโดดเด่นกว่าหลายๆทีมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ถือว่าพวกเขาค่อนข้างโดดเด่นกว่าหลายๆทีมเช่นกันก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับผลงานและขุมกำลังนักเตะในแดนกลางของทีมนั่นเอง เพราะจะเห็นได้ว่าจากผลงานของแดนกลางเชลซีตลอดช่วงที่ผ่านมานั้น ถือว่าพวกเขาค่อนข้างมีผลงานที่สม่ำเสมอกว่าหลายๆทีมเลย สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เชลซีนั้นมีขุมกำลังในแดนกลางที่ถือว่าฝีเท้าดีๆหลายคนเลย แถมทั้งหมดยังทำผลงานออกมาได้ดี มีฟอร์มที่สม่ำเสมอ และยังสามารถทดแทนกันได้หมดอีกด้วยนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ดี สำหรับในบทความนี้จะขอพูดถึงฟอร์มและผลงานของหนึ่งในตัวหลักในแดนกลางของเชลซีกันหน่อย เพราะดูเหมือนจากผลงานและฟอร์มที่ผ่านมานั้น เขาคนนี้ดูเหมือนจะฟอร์มไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่สำหรับตัวหลักทั้งหมดในแดนกลางของเชลซี และคนที่พูดถึงในบทความนี้ก็คือ เจ้าออสก้า กลางตัวรุกของทีมนั่นเอง ซึ่งดูเหมือนว่าสำหรับฟอร์มของเจ้าออสก้าในช่วงระยะหลังที่ผ่านมา จะดูฟอร์มตกลงไปพอสมควรเลย หากเทียบกับช่วงแรกๆของฤดูกาล บางนัดดูวูบวาบและเด่นพอสมควรเลย แต่หลายๆนัดก็เงียบไปเหมือนกัน ซึ่งในตอนแรกนั้นก็ไม่คิดมากอะไรเท่าไหร่นัก แต่พอเชลซีได้ปีกตัวใหม่อย่างเจ้ากัวดราโด้มา และหลังจากที่เห็นฟอร์มของวิลเลี่ยน มิดฟิดล์ในแดนกลางอีกคนจากเกมที่เอาชนะเอฟเวอร์ตันที่ผ่านมานั้น ก็เลยทำให้ต้องคิดหนักเลยทีเดียว เพราะคิดว่าหากหลังจากนี้ออสก้ายังโชว์ฟอร์มไม่ค่อย และยังฟอร์มเงียบๆอยู่แบบนี้ เขาอาจจะเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับวิลเลี่ยนไปแทนก็เป็นได้

นั่นก็เพราะว่า โดยตามตำแหน่งนั้น เจ้าวิลเลี่ยนนั้นสามารถเล่นได้ทั้งปีกและกลางตัวรุก ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับเจ้าออสก้า และจากเกมที่พบกับทีมเอฟเวอร์ตันที่ผ่านมา สิ่งที่น่าสนใจของเกมนี้ก็คือ มูริญโญ่ส่งปีกตัวใหม่อย่างเจ้ากัวดราโด้ลงเล่นในตำแหน่งปีกขวา และเขาก็พักเจ้าออสก้าในเกมนี้ เลยทำให้เกมนี้นั้นมูริญโญ่ส่งเจ้าวิลเลี่ยนไปเล่นในตำแหน่งของเจ้าออสก้าแทน และผลที่ออกมาก็คือ เจ้าวิลเลี่ยนนั้นทำได้อย่างเยี่ยมยอดเลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเดินเกมรุกและช่วยเกมรับที่เขาถนัดอยู่แล้ว เลยทำให้สำหรับเกมดังกล่าวนี้เจ้าวิลเลี่ยนนั้น โชว์ฟอร์มออกมาได้อย่างโดดเด่นเอามากๆ เรียกได้ว่าเด่นกว่าตอนที่เขาเล่นในตำแหน่งปีกขวาก่อนหน้านี้พอสมควรเลย แม้ว่าเรื่องการผ่านบอลนั้นเขาอาจจะทำได้ไม่ค่อยโดดเด่นนัก แต่ทว่าในเรื่องของยามที่เชลซีเล่นโต้กลับนั้น เจ้าตัวทำได้อย่างเยี่ยมยอดเลย เพราะเป็นนักเตะที่ไปกับบอลเก่งและมีความเร็วอยู่แล้ว จนเห็นได้ชัดว่าเลยว่า พอวิลเลี่ยนเล่นในตำแหน่งดังกล่าวนี้ เขาดูเข้ากันได้ดีกับแผนการเล่นของมูริญโญ่เป็นอย่างมาก เลยทำให้คิดว่า หากหลังจากนี้ออสก้า ซึ่งเป็นตัวหลักในตำแหน่งนี้ เขายังไม่สามารโชว์ผลงานได้ดีกว่าที่ผ่านมา เขาก็อาจจะเสียตำแหน่งให้กับวิลเลี่ยนไปแทนนั่นเอง.

วิเคราะห์บอลออสเตรีย บุนเดสลีก้าคู่เด็ดต้องลอง

sbobet

sbobetลองมาดูวิเคราะห์บอลออสเตรีย บุลเดสลีก้ากันบ้างดีกว่า ดูมันลุ้นสนุกไม่แพ้ลีกอื่นเช่นกัน วันนี้ก็มีสองคู่เด็ดมาฝากกันเช่นเคยการันตีโดยเหล่าเซียนผู้ชำนาญการวิเคราะห์ทีไรไม่ค่อยพลาดเป้า มาเริ่มกันที่คู่แรกกันเลยแอดมิร่าเปิดบ้านรับการมาเยือนจากทีมโวล์ฟสเบอร์เกอร์ ผลงาน 5 นัดหลังสุดของเจ้าบ้านนั้นยังลูกพี่ลูกคนฟอร์มไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ชนะ2 เสมอ 1 แพ้2 ผิดกับฟอร์มการเล่นในถ้วยบอลลีกเล่นได้ค่อนข้างดีเยี่ยม อาจเป็นเพราะทีมหลักพักตัวจึงทำให้ฟอร์มดรอปลงไป ส่วนทีมเยือนอย่างโวล์ฟสเบอร์เกอร์นั้นผลงาน 5 นัดหลังสุดชนะ 3 แพ้ 2 ถือว่าทำได้ดีในระดับหนึ่งสำหรับทีมกลางตาราง ในถ้วยบอลลีกนั้นเล่นได้ไม่ค่อยดีนัก แต่กับพรีซีซันของลีกนี้ฟอร์มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หากเทียบฟอร์มโดยรวมระหว่างสองทีมนี้ซึ่งหากเจ้าบ้านยังไม่ใช่ชุดใหญ่ลงเกมนี้อาจจะเอาชนะยากสักหน่อย เหล่าเซียนมองว่าทีมเยือนมีโอกาสคว้าชัยไปได้สูงเพราะฟอร์มเริ่มดีขึ้นเล่นเข้าขากันแนวรุกกับรับทำงานได้ดี ดังนั้นนัดนี้เชียร์ทีมเยือนไม่น่าทำให้ผิดหวัง

มาต่อกันที่คู่ของวัตเท่นเปิดบ้านรับการมาเยือนจากทีมออสเตรียเวียนนา สำหรับเจ้าบ้านนั้นผลงงาน 5 นัดหลังสุดในถ้วยบอลทำได้ค่อนข้างดีชนะ 4 แพ้ 1 นัดล่าสุดอาจสะดุดฟอร์มไปเล็กน้อยแต่โดยรวมยังถือว่าดี ในเกมพรีซีซันนั้นทำได้กระท่อนกระแท่นอาจเป็นเพราะอ่อนแรงจากถ้วยใหญ่มาฟอร์มเลยไม่นิ่งเท่าที่ควร ในขณะที่ทีมเยือนออสเตรียเวียนนานั้นฟอร์มมาแรงเหลือเกินอุ่นเครื่องในพรีซีซัน 4 นัดชนะ 3 เกม เสมอ 1 เกมและในถ้วยบอลก็ทำได้ดีซัดทีมรองของลีกแบบไม่ไว้หน้ากินไปเต็มๆ 9 แต้ม ดังนั้นนัดนี้ดูจากทรงแล้วค่อนข้างสูสีกันมาก แต่หากลองเทียบแบบช็อตต่อช็อตแล้วล่ะก็ ออสเตรียเวียนนาเหนือกว่าเล็กน้อยนัดนี้เหล่าเซียนมองว่าน่าจะซัดไปได้ 3 แต้มแบบไม่ยากเย็นมากนัก

วิเคราะห์กันแม่นๆแล้วก็อย่าลืมมาแทงบอลกับ sbobet นะ เผื่อจะได้มีเงินไปกินขนมกันแบบสบายๆ อยากรู้ต้องลอง