หลังเกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ระหว่าง สเปอร์สกับ ลิเวอร์พูล ที่เป็นฝ่ายลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 1-0 แน่นอนว่าการทำงานหนักของพวกเค้าแสดงให้เห็นผลแล้วว่าพวกเค้ามีคุณภาพทิ้งห่างทีมอื่นในลีคไปพอสมควรเลย ย้อนกลับไปในเกมดังกล่าว หนึ่งในคีย์แมนหลักของฝั่งลิเวอร์พูล นั่นก็คือ โรเบอร์โต เฟอร์มิโน่ พระเอกตัวจริง(อีกแล้ว)
ตัวเชื่อมต่อกับเพื่อนทุกคน
ตำแหน่งของ เฟอร์มิโน่ ที่เล่นอยู่นั้น ภารกิจสำคัญของเค้าอาจจะไม่ใช่การทำประตูเพื่อชัยชนะ แต่เป็นการเชื่อมต่อกับเพื่อนทุกคนในทีมให้เล่นได้อย่างสะดวก เค้ากลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมทุกคนเข้าด้วยกันด้วย สังเกตได้ว่า ใครจะขาดลงสนามบ้างไม่ได้ลงบ้างก็ไม่เป็นไร แต่เฟอร์มิโน่จะขาดไม่ได้เลย เพราะหากขาดเค้าจะขาดคนเชื่อมทำให้เกมบุกขาดประสิทธิภาพไปกว่าครึ่ง การเชื่อมต่อตรงนี้แหละที่ทำให้เค้ากลายเป็นคนสำคัญ
เล่นตรงไหนก็ได้ ขอให้บอก
นักฟุตบอลหลายคนมักจะมีตำแหน่งถนัดของตัวเอง หากเป็นเกมบุกจะมีฝั่งถนัดของตัวเองด้วย อาจจะเป็นเรื่องของเท้าข้างถนัดหรือไม่ถนัด หากได้เล่นตรงที่ไม่ถนัดจะเล่นไม่ค่อยถูกจังหวะ แสดงศักยภาพของตัวเองได้อย่างไม่เต็มที่ แต่เฟอร์มิโน่ ไม่เป็นแบบนั้น จากหน้าที่เชื่อมต่อกันในข้อแรก ทำให้ตัวเค้าสามารถเล่นตรงไหนก็ได้ในเกมรุก จะฝั่งซ้าย ขวา กลาง กองหน้า กองกลางตัวรุก กองกลาง ปีก ได้หมด ความยืดหยุ่นตรงนี้ทำให้การปรับเปลี่ยนแท็คติกส์ในสนามทำได้เองแบบไม่ต้องรอให้โค้ชบอก
แมตช์วินเนอร์ของจริง
นักเตะที่จะเก่งจริงหรือไม่นั้น นอกจากความสม่ำเสมอในการเล่น ผลงานในสนามก็เป็นตัวบอกได้อย่างหนึ่ง แต่อีกหนึ่งอย่างหากเราคิดจะขึ้นไปเทียบชั้นตำนานของทีมก็คือ นักเตะคนนั้นจะต้องมีความเป็นแมตช์วินเนอร์ของจริง ขยายความก็คือนักเตะจะต้องสามารถพาทีมเอาชนะได้ในช่วงเวลาคับขัน หรือ เอาชนะได้ในเวลาต้องเจอกับทีมในระดับพิกัดเดียวกัน เฟอร์มิโน่ มีข้อนี้อย่างเต็มเปี่ยม สังเกตดูได้ว่าเกมไหนดูตันๆไปไหนไม่เป็น เฟอร์มิโน่ แผลงฤทธิ์ได้ตลอด ความสำคัญระดับนี้จึงไม่แปลกที่เค้าจะถูกยกย่องจากหลายฝ่ายว่าเป็นพระเอกตัวจริงของทีม